My 2019

เมื่อปีที่แล้ว ตั้งเป้าหมายกับตัวเองไว้หลายอย่าง แต่ไม่ได้บันทึกไว้ ปีนี้เลยเป็นปีที่ดีที่จะได้เริ่มต้นบันทึกเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ให้ตัวเราเองในปีต่อ ๆ ไปได้ย้อนกลับมาลำลึกความทรงจำเสียที

ปี 2019 เป็นปีที่มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในชีวิต เหมือนเพื่อนหลาย ๆ คน ผมตั้งเป้าหมายที่จะทำในปีนี้ ทั้งเรื่องการงาน การเงิน และชีวิต ซึ่งก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่าทำได้ไม่ถึงครึ่ง คงเพราะตั้งเป้าหมายมากเกินไปนั่นแหละ ดังนั้นจำไว้ว่า ถ้าจะตั้งเป้าหมาย ให้ตั้งแค่เน้น ๆ 1 – 2 อย่างก็พอ จะได้ทำได้

เนื่องจากในปีที่ผ่านมามันมีเหตุการณ์หลายอย่าง เลยจะขอสรุปออกมาเป็นข้อ ๆ ดังนี้โดยจะเรียงตามเหตุการณ์สำคัญก่อน

ด้านสุขภาพ

ต้องยกให้ปี 2019 นี้เป็นปีแห่งปัญหาสุขภาพ ถือว่าหนักหน่วงที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว ผมจำได้แม่นว่าวันที่ 1 พฤษภาคม หรือวันแรงงาน ตอนที่กำลังลุกจากที่นั่งเกิดอาการปวดขาขวาฉับพลัน พอไปตรวจจึงได้รู้ว่าเป็นโรค หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ทำเอาเดินไม่ได้เป็นเดือน ๆ ทำให้รู้ซึ้งกับคำว่า “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา”

ผมใช้เวลาในการรักษาตัว ด้วยการกายภาพบำบัด กินยา ปรับพฤติกรรม เกือบ 6 เดือน ถึงรู้สึกใกล้เคียงปกติ (90%) ต้องขอบคุณหลาย ๆ คนที่ดูแลและช่วยหาข้อมูลการรักษา ตลอดช่วงเวลาที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นะครับ โดยเฉพาะคุณพ่อ คุณแม่ แม่โอม และคุณตาล (เดี๋ยวผมจะเขียนเล่าเรื่องโดยละเอียดแยกไปอีกทีครับ)

นอกจากเรื่องร้าย ๆ ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมควบคุมน้ำหนักให้อยู่กับที่สำเร็จ หลังจากเมื่อปีที่แล้วได้ทำการลดหุ่นลงมาจากจุดสูงสุด ผมคิดว่าน่าจะได้วิธีการที่ทำได้ง่ายแล้วหละ (ไว้จะมาเล่าให้ฟังในเรื่องเล่าต่อไป)

ด้านการใช้ชีวิต

เรื่องความสัมพันธ์ ผมตั้งใจจะกลับบ้านนอกช่วงเทศกาลให้ได้ 4 ครั้ง แต่ว่าที่ทำได้จริง ๆ ก็ 2 ครั้ง (ไม่นับตอนที่กลับไปบ้านเพื่อรักษาตัวจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท) พาแฟนกลับไปเยี่ยมที่บ้านได้ตามที่ตั้งใจ

สืบเนื่องจากปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น ทำให้หลายทริปต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ก็เลยกลายเป็นว่าปีนี้ไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศเลย ซึ่งปกติจะต้องได้ออกไปหาประสบการณ์ในต่างแดนสักครั้งในรอบปี เพื่อกระตุ้นไอเดีย ดังนั้นปีนี้จะเอาใหม่

ส่วนการไปเที่ยวในประเทศก็ทำได้ตามเป้าหมาย ออกจะไปหลายที่ ได้เข้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้” ของรัฐบาลด้วย (ถึงจะใช้ไม่หมดก็เถอะ)

ได้สัมผัสบรรยากาศ กทม ช่วงปีใหม่เป็นครั้งแรกในชีวิต นอกจากนั้นยังได้ไปร่วมงานสวดมนต์ข้ามปีแบบงง ๆ ด้วย

และที่พลาดไม่ได้คือ ผมได้ปลดล๊อกบทถัดไปของชีวิต ได้สำเร็จในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ปีหน้าจะมีอัปเดทเพิ่มเติม 🙂

การงาน

ปีนี้ได้พัฒนาตัวเองหลายอย่างมากโดยเฉพาะในด้านของ Soft Skill ผมมีโอกาสได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่ดีมากทั้งไทยและต่างประเทศ มีโอกาสในการฝึกภาษาอังกฤษมากขึ้น

พัฒนาความสามารถในการบริหารจัดการ การบริหารคน และการบริหารทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด พัฒนาความเด็ดขาดในการตัดสินใจ การปฏิเสธ

เรื่องการจัดการเวลาถือว่าทำได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ซึ่งเท่าที่คิดดูแล้ว น่าจะส่งผลมาจาก ความไม่เด็ดขาดเพียงพอ รักพี่เสียดายน้อง ทำให้บางครั้งเกิดปัญหา ซึ่งได้พยายามทำให้ดีขึ้นโดยใช้คติ “ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่าง เดี๋ยวบางอย่างจะบังคับให้เราทำ”

ส่วนในด้านเทคโนโลยีไม่ค่อยได้ตามเทรนใหม่ ๆ เลย เพราะงานส่วนมากไม่ค่อยจะได้หยิบพวกเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้

จบปีนี้ผมคิดว่าผมเข้าใจวงจร “Start Up” มากยิ่งขึ้น

ด้านการเงิน

ปีนี้เป็นปีแรกที่จดบันทึกรายรับรายจ่ายทั้งหมดทุกยอดตั้งแต่เดือน 1 จนถึงเดือน 12 และช่วงปลายปีเริ่มทำบัญชีควบคุมการใช้เงินทั้งหมด รวมถึงการร่างแผนเกษียณแบบจริงจัง ทำให้เห็นว่าการใช้เงินของตัวเองก็ค่อนข้างน่ากลัวเหมือนกัน แต่ก็ยังที่ที่เก็บได้มากกว่าใช้

เริ่มศึกษาด้านการลงทุนในหุ้น กองทุน ทั้งไทยและต่างประเทศจริงจังขึ้น และเริ่มลงมือทำตามแผนไปแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะอย่างที่หลาย ๆ คนบอก การลงมือทำ มันมีอะไรมากกว่าการศึกษาในตำรา

เนื่องจากปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น ทำให้ผมกล้าใช้เงินที่หามาได้มากขึ้น เพราะสิ่งที่เรียนรู้จากการป่วยคือ อย่ามองแต่อนาคตไกล ๆ ให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น เพราะว่า “ชีวิตเราไม่แน่นอน” เก็บก็ส่วนเก็บ ใช้ก็ส่วนใช้

และท้ายสุด หลังจากที่ผมสำเร็จเป้าหมายเก็บเงิน 1,000,000 บาทแรกเมื่อปลายปี 2017 ผมก็ไม่ได้มีเป้าหมายใหญ่ ๆ ด้านนี้มาสักพัก เรียกว่าไม่รู้จะตั้งเป้าหมายใหญ่ ๆ เป็นอะไรดี อาจจะเพราะว่าไม่มี Passion เพียงพอ จนกระทั่งได้ยินคำว่า Elite เลยได้เจอกับสถานะการณ์ใหม่ ปีนี้ผมจะต้องเริ่มสร้างทรัพย์สินเพื่อทำเงินให้มากขึ้น

สรุป

สุดท้ายนี้ผมเป็นกำลังใจให้กับตัวเองเพื่อฝ่าฟันเป้าหมายใหม่ในปี 2020 อะไรที่เคยทำสำเร็จในปี 2019 ก็ต้องทำต่อไป เพราะ “การทำสำเร็จ” ไม่สำคัญเท่า “การยืนระยะ” ส่วนอะไรที่ทำไม่ได้ ก็แค่หยิบมาทำต่อให้มันสำเร็จ

ปีนี้อายุย่างเข้า 31 ปีแล้ว ขอให้พร้อมเข้าสู่ชีวิตบทใหม่ 2020 ครับ คุณสมิทธ์

Published by

Smith Krengkrud

Happiness begins with small things.

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s